logo IPST4 IPST4
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Book
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
Login
Login / Register
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Book
  • Apps
  • เกี่ยวกับ scimath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
Login
Login / Register
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
  • learning space
  • ระบบอบรมครู
  • ระบบการสอบออนไลน์
  • ระบบคลังความรู้
  • ระบบการเรียนรู้ร่วมกัน
  • ระบบสำนักพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์
  • สสวท.
  • สำนักงานสลากกินแบ่ง
  • วีดิทัศน์
  • คลังภาพ
  • บทความ
  • โครงงาน
  • บทเรียน
  • แผนการสอน
  • E-Books
  • Apps
Login
Login / Register
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
ค้นหา
    

ค้นหาบทเรียน

กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
เลือกหมวดหมู่
    
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • หน้าแรก
  • บทเรียน
  • ฟิสิกส์
  • แรงและการเคลื่อนที่

แรงและการเคลื่อนที่

โดย :
ณัฐวิญญ์ สิรเดชธราทิพย์
เมื่อ :
วันจันทร์, 26 กุมภาพันธ์ 2561
Hits
536
  • 1. Introduction
  • 2. เพนดูลัมคลิปหนีบกระดาษ
  • - All pages -

วงแหวนแห่งควัน

         วงแหวนแห่งควันนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติต่อเนื่องกับการเกิดวอร์เทกซ์วงแหวน (Ring vortex) ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับพายุหมุน หรือการม้วนกลับของลม ซึ่งแทนที่แกนกลางจะเป็นแนวตรง กลับเป็นวงกลมแทน เช่นบางครั้งขณะที่ภูเขาไฟกำลังปะทุ มีเถ้าถ่านและฝุ่นควันออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟ ก็จะเป็นเป็นวงแหวนเกิดขึ้นด้วย อากาศจะถูกอัดและกระเด็นออกมาจากปล่องภูเขาไฟด้วยความแรง เมื่อผ่านควันก็จะม้วนรวมควันเข้าไปในตัวด้วย จีงเรียกว่า วงแหวนแห่งควัน (smoke ring vortex)

7869 1

 ภาพแสดงการเกิด วอร์เทกซ์วงแหวน จากการระเบิดของภูเขาไฟในอิตตาลี
ที่มา http://vrf.wpengine.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2014/02/7-Y4m0sDn.jpg

        ในธรรมชาตินั้นการเกิดวงแหวนแห่งควันจะเกิดขึ้นโดยเห็นได้ชัดเจน และมีความสูงมาก ในอากาศนั้นจุดศูนย์กลางของการเกิดของวงแหวนจะเกิดขึ้นเร็วมาก บางครั้งอาจจะดูเหมือนขนมโดนัทที่ค่อยๆ ขยายออกเรื่อยๆ และหมุนอยู่บริเวณปากปล่องของภูเขาไฟ

7869 2

ภาพแสดงวงแหวนแห่งควันที่เกิดขึ้นธรรมชาติสูงกว่าผิวโลกที่ระยะทางครึ่งไมล์
ที่มา http://vrf.wpengine.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2014/02/3-gTl3jM0.jpg

          การรักษาสภาพของวงแหวนแห่งควันนั้นอาจจะคงสภาพได้ถึง 10 นาที ก่อนที่รูปวงแหวนจะค่อยๆ จากหายไป

การค้นคว้าวงแหวนแห่งควัน

          T.T. Lim ทำวิจัยศึกษาเรื่องวงแหวนแห่งควันที่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ (National University of Singapore) โดยการศึกษาแบบต่างๆ เช่น การชนกันของวงแหวน การกระโดดของวงแหวน  มีภาพการทดลองวงแหวนแห่งควัร แสดงให้เห็นว่า ขนาดของวงแหวนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะทางที่มันเคลื่อนที่ไปออกไป เรายังพบว่าการเกิดวงแหวนวอร์เทกซ์เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ด้วย

         เมื่อหลายปีที่ผ่านมาในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้เข้าชมงานหลายคนจะเกิดความประหลาดใจว่าได้เห็นควันรูปคล้ายขนมโดนัทหลายลูก วิ่งออกไปหลายทิศทาง เร็วบ้างช้าบ้าง ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ บางลูกชนกันแล้วสลายตัวไป ในขณะที่บางลูกโดนชนแล้วเบี้ยวไปมา ดูแล้วน่าสนุก ซึ่งปรากฏการณ์ที่เห็นนั้น เป็นการจำลองการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่หาดูได้ยากยิ่ง ซึ่งคือ วงแหวนแห่งควัน นั่นเอง

7869 3

ภาพการจำลองการเกิดวงแหวนแห่งควัน
ที่มา http://tesladownunder.com/VortexPhysicsRedOneRingMe_small.jpg

        ทำไมถึงกล่าวว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หาดูได้ยากเพราะวงแหวนแห่งควันนี้จะเกิดขึ้นในช่วงการระเบิดของภูเขาไฟ ในช่วงที่สภาวการณ์อำนวยเท่านั้น การระเบิดจะทำให้มวลของอากาศที่อยู่ในปล่องภูเขาไฟให้หลุดกระเด็นออกมาด้วยความเร็ว มวลอากาศที่ว่านี้เมื่อเกิดในบริเวณที่มีควัน ก็จะม้วนรวมเอาควันให้เคลื่อนที่ไปด้วยกัน ในลักษณะที่เสถียรที่สุด ซึ่งก็คือรูปแบบของวงแหวนนั่นเอง

ทำไมจึงมีแต่รูปวงแหวน

       วงแหวนวอร์เทกซ์ต้องเป็นรูปวงแหวนอย่างเดียวเท่านั้นหรือ ทำไมไม่เป็นรูปอื่นๆ บ้าง เช่น ก้อนกลม หรือ สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ สาเหตุก็เพราะว่าเมื่อก้อนอากาศเดินทางผ่านอากาศ มวลอากาศที่อยู่ด้านในก้อน จะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ามวลอากาศที่อยู่รอบนอกของก้อนอากาศ เนื่องจากแรงเสียดทานระหว่างผิวด้านนอกกับอากาศรอบๆ ที่มันเคลื่อนตัวผ่าน เมื่อมวลอากาศตรงกลางเคลื่อนที่ทะลุผ่านออกไป ก็จะถูกม้วนกลับออกทางด้านผิวนอก แล้วกลับเข้ามายังด้านท้ายอีก จนในที่สุดกลายเป็นรูปวงแหวนอย่างที่เราเห็นกัน ภาพการเกิดวอร์เทกซ์วงแหวน

7869 4

ภาพแสดงทิศทางการม้วนกลับของมวลอากาศทำให้เกิดวงแหวน
ที่มา https://www.howitworksdaily.com/gastric-anatomy

       การเกิดวอร์เทกซ์หรือวงแหวนแห่งควันเกิดได้ทั้งในอากาศและในของไหลอื่น เช่น น้ำ โดยเมื่อเกิดวงแหวนของอากาศในน้ำจะเรียกว่า บับเบิ้ลริง (Bubble Ring) โดยหลักการและวิธีการเกิดบับเบิ้ลริง เป็นแบบเดียวกับวงแหวนวอร์เทกซ์แต่แทนที่จะเป็นมวลอากาศม้วนกลับ แต่เป็นน้ำม้วนกลับเป็นวงแทน

7869 5

ภาพ การเกิดบับเบิ้ลริงในน้ำ
ที่มา https://i.ytimg.com/vi/lnmPm5vGz34/maxresdefault.jpg

         จากภาพการเกิดบับเบิ้ลริงในน้ำจะเห็นได้ว่าวงแหวนค่อยๆ ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ แล้วลอยออกขึ้นไปสูงขึ้น ทั้งนี้การเกิดบับเบิ้ลริงจะมวลน้ำจะม้วนเข้ามาแทนที่ ทำให้เกิดวงกลมและแรงยกตัวให้บับเบิ้ลริงลอยสูงขึ้น

        นอกจากบับเบิ้ลริง หรือจะเป็นวงแหวนวอร์เท็กซ์จะเกิดขึ้นเองในธรรมชาติแล้ว เรายังสามารถสร้างบับเบิ้ลริงในน้ำได้เช่นกันและโลมาก็สามารถสร้างบับเบิ้ลริงได้เหมือนกัน ดังแสดงในภาพ

7869 6

ภาพ การเกิดบับเบิ้ลริงในน้ำโดยนักดำน้ำ
  ที่มา https://i.ytimg.com/vi/43fhNNcwioE/maxresdefault.jpg

 

7869 8
ภาพการทำบับเบิ้ลริงของโลมา
https://www.howitworksdaily.com/wp-content/uploads/2013/08/42-33052256.jpg

การเกิดวงแหวนแห่งควันในประเทศไทย

         ในประเทศไทยเป็นที่ตื่นเต้นมากในฉากของละครโทรทัศน์เรื่อง สายโลหิต ก็เคยเกิดปรากฏการณ์วงแหวนแห่งควันขึ้น มีคนเห็นหลายคนและถ่ายภาพไว้ด้วย... หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2546 เมื่อครั้งไปถ่ายทำที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นฉากการยิงต่อสู้ด้วยปืนใหญ่ระหว่างทัพไทย กับทัพศัตรู ผลจากการระเบิดของถุงน้ำมันที่ซ่อนไว้ในหลุม ทำให้เกิดวงแหวนแห่งควันสีดำขึ้น เนื่องจากเป็นวันที่ไม่มีลม วงแหวนสีดำดังกล่าวจึงค่อยๆ ลอยขึ้นบนอากาศได้เป็น เวลานาน ให้ผู้คนในกองถ่ายได้ตกตะลึงกันถ้วนหน้า

7869 11 7869 12
ภาพการเกิดวงแหวนแห่งควันในการถ่ายทำละครเรื่องสายโลหิต
ที่มา http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/193/658/original_Vortex_Ring-6-G2K.jpg?1352595060

        ความรู้เรื่อวงแหวนแห่งควันยังคงมีให้ศึกษากันต่อไปเรื่อยๆ ทั้งในการนำไปใช้ประกอบการโฆษณา การแสดงคอนเสิร์ทและอีกมากมาย แต่ถ้าเรารู้ว่าการเกิดวงแหวนแห่งควันนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร การทำความเข้าใจและเรียนรู้เพื่ออธิบายคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำมาประยุกต์ใช้

 


Return to contents

 เพนดูลัม อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องศาสตร์ลึกลับที่เหมือนมีพลังศาสตร์มืดเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะว่าเดี๋ยวนี้มีเพนดูลัมมาใช้ในการพยากรณ์ หรือ ฝึกพลังจิต แต่จริงๆ แล้วเพนดูลัมมีมานานแล้ว

7869 13

http://www.pendulumthai.com/pic_pendulum21.jpg

          ในการก่อสร้างช่างก่อสร้างจะใช้เพนดูลัมในการกำหนดระยะในการสร้างอาคารให้ตรง หรือการตั้งฉากกับพื้น แต่ช่างจะเรียกว่า ลูกดิ่ง แทนที่จะเรียกเพนดูลัม

         ลูกดิ่ง คือ เครื่องมือสำหรับงานช่างชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นตุ้มน้ำหนักที่มีปลายด้านหนึ่งแหลม และปลายอีกด้านยึดไว้ด้วยเชือก ใช้สำหรับการหาแนวดิ่งที่ตั้งฉากกับพื้นโลก เพื่อใช้เป็นแนว หรือเส้นอ้างอิงสำหรับงานก่อสร้างและงานช่างอื่นๆ

         การใช้ลูกดิ่งหาแนวดิ่ง มีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ทั้งช่างก่ออิฐ, ช่างแกะสลักหิน หรือช่างไม้ ต่างก็ใช้ลูกดิ่งในการตรวจสอบชิ้นงานต่างๆ ว่าได้แนวดิ่งหรือไม่ ในปัจจุบัน ลูกดิ่งสำหรับงานช่างได้รับการปรับปรุงให้สะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรวมกับปักเต้า และยังถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของเครื่องมืออื่น เช่น กล้องวัดระดับ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับการวัดระดับและแนวสำหรับงานสำรวจ

         ตุ้มน้ำหนักที่ใช้ทำเป็นลูกดิ่ง เดิมทีนิยมใช้ดีบุกเป็นวัสดุหลัก แม้ในปัจจุบันลูกดิ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่วัสดุที่ใช้ทำตุ้มน้ำหนักยังนิยมใช้โลหะเป็นวัสดุหลัก

7869 14

ภาพแสดง ลูกดิ่ง
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C:Plumb_bob.jpg

7869 15

ภาพแสดงการใช้ลูกดิ่งในการก่อสร้าง

ที่มา https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/0/07/US_Navy_081008-N-3560G424_Utilitiesman_3rd_Class_James_Tofil_ensures_that_the_grade_beams_are_plumb_before_the_placement_of_concrete.jpg

การแกว่งเพนดูลัม

           เมื่อเพนดูลัมถูกแกว่งให้เคลื่อนที่กลับไปมาทำให้เกิดการเคลื่อนที่อีกแบบหนึ่งเรียกว่าการเคลื่อนที่แบบแกว่ง (Oscillate) กาลิเลโอ เป็นผู้สังเกตการณ์เคลื่อนที่แบบนี้ ในตอนนั้นกาลิเลโอยังเป็นเด็กหนุ่มวัย 19 ในขณะที่เขาได้เข้าไปทำพิธีในโบสถ์ก็ได้สังเกตโคมไฟที่แขวนอยู่บนเพดานของโบสถ์ เมื่อโดนลมพัดโคมไฟที่เคลื่อนที่กลับไปมาพบว่า เวลาที่ใช้ในการเคลื่อนกลับไปมา 1 ครั้ง ครบ 1 รอบ (ตอนนั้นยังไม่มีนาฬิกา แต่กาลิเลโอใช้จำนวนครั้งของการเต้นของชีพจรตนเอง) โดยเขาพบว่าเวลาในการแกว่งของโคมไฟจะเท่าเดิมไม่ว่าโคมไฟนั้นจะแขวนจากเพดานด้วยโซ่ที่สั้นหรือยาวก็จะแกว่งด้วยเวลาที่เท่าเดิม

7869 16

ภาพแสดง กาลิเลโอสังเกตการแกว่งของโคมไฟ
ที่มา http://www.vcharkarn.com/uploads/153/153965.jpg

        กาลิเลโอเป็นคนแรกที่ค้นพบกฎการแกว่งแบบนี้จึงตั้งชื่อการเคลื่อนที่แบบนี้ว่าเพนดูลัม (Pendulum) ในตอนนั้นกาลิเลโอสรุปว่า คาบการแกว่งของเพนดูลัมมีค่าคงที่ ไม่ว่าเพนดูลัมนั้นจะกางทำมุมเท่าใดก็ตามจากแนวสมดุล (ปัจจุบันพบว่ามีข้อผิดพลาดในบางส่วนเพราะแรงเสียดทานทำให้เพนดูลัมเคลื่อนที่ได้ช้า)

        แนวความคิดนี้ทำให้กาลิเลโอนำมาประยุกต์ในการใช้จับเวลาในการทดลองใหม่ของเขานั้นในปัจจุบันเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าการแกว่งของเพนดูลัมจากแนวสมดุลต้องมีค่ามุมไม่เกิน 15 องศา คาบการเคลื่อนที่จึงจะเป็นไปดังสมการซึ่งส่งผลให้เพนดูลัมมีการเคลื่อนที่ด้วยคาบคงที่เสมอ

7869 17

ภาพแสดงการประดิษฐ์นาฬิกาแบบลูกตุ้มของฮอยเกนส์
ที่มา http://www.vcharkarn.com/uploads/153/153969.jpg

         ต่อมา ช่วงกลางคริสตศตวรรษที่ 16 นักประดิษฐ์ชาวดัชต์ชื่อ คริสเตียน ฮอยเกนส์ ได้ประดิษฐ์นาฬิกาลูกตุ้มขึ้น โดยอาศัยหลักการแกว่งที่คงที่ของลูกตุ้มตามที่กาลิเลโอค้นพบ ผสมผสานกับหลักการที่เคปเลอร์ค้นพบ ทำให้นาฬิกาลูกตุ้มสามารถแกว่งคงที่ได้โดยอิสระปราศจากแรงเสียดทาน ทำให้การบอกเทียบเวลามีความแม่นยำมากขึ้น


การเคลื่อนที่แบบ Simple Harmonic 

         การเคลื่อนที่ของเพนดูลัม เป็นการเคลื่อนที่กลับไปกลับมาผ่านจุดสมดุลแรงลัพธ์จะมีทิศเข้าสู่แนวสมดุลเสมอ จึงทำให้เรียกการเคลื่อนที่แบบนี้ว่า simple harmonic การเคลื่อนที่ของเพนดูลัมเกิดจากผลรวมของแรงตึงเชือกและแรงน้ำหนักของตุ้ม กลายเป็นแรงลัพธ์ที่ดึงลูกตุ้มเข้าสู่แนวสมดุลและสามารถเคลื่อนกลับไปกลับมาได้โดยเวลาที่ใช้ในการเคลื่อนไปและกลับ 1 รอบ จะมีค่าเท่าเดิมเสมอและเวลาที่ได้จะเท่ากันในแต่ละรอบ แม้ว่าจะแกว่งกว้างเท่าไหนก็ตามก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมวลลูกตุ้มนั้นหรือระยะในการดึงออกจากแนวสมดุลเลยแต่จะขึ้นอยู่กับความยาวเชือกที่แขวนลูกตุ้มนั้นเพียงอย่างเดียว หรืออาจะกล่าวได้ว่า ถ้าเชือกสั้นจะแกว่งเร็วกว่าเชือกยาว แต่ที่จริง คือ มุมของเชือกเทียบแนวสมดุล (q) ต้องไม่เกิน 15 องศา)

7869 18

ภาพแสดง นาฬิกาลูกตุ้ม 
ที่มา http://q.lnwfile.com/_/q/_raw/cb/7o/c4.jpg

เพนดูลัมคลิปหนีบกระดาษ

        เมื่อทราบหลักการของเพนดูลัมแล้ว กิจกรรมง่ายๆ ที่พิสูจน์การทดลองของกาลิเลโอ โดยใช้คลิปหนีบกระดาษ 1 กล่อง เริ่มจากการนำคลิป 10 ตัว มาต่อกันเป็นโซ่ยาวแล้วแกว่ง จับเวลาที่คลิปแกว่งไปกลับจำนวน 20 รอบ แล้วบันทึกผล

7869 19
ภาพการแกว่งคลิปหนีบกระดาษคลิป 10 ตัว

        เพิ่มจำนวนคลิปหนีบกระดาษเป็น 15 , 20 , 25 และ 30 ตัว จับเวลาที่คลิปแกว่งไปกลับจำนวน 20 รอบ แล้วบันทึกผล คำนวณหาเวลาเฉลี่ยต่อรอบในการแกว่งคลิบแต่ละครั้งและเขียนกราฟ ซึ่งอาจจะได้ความสัมพันธ์ดังแสดงในตาราง

7869 19

        จากตัวอย่างการทดลองเมื่อเพิ่มจำนวนคลิบให้ยาวขึ้น ค่าคาบเฉลี่ยไม่แตกต่างกันมาก จำนวนคลิบยาวมากขึ้นค่าเฉลี่ยของคาบเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะอาจจะมีแรงเสียดทานระหว่างการแกว่ง คลิบหนีบกระดาษเป็นตัวแทนของการแกว่งที่มีการเคลื่อนที่แบบกลับไป กลับมาอย่างสม่ำเสมอ ช่วงของลูกตุ้มขึ้นอยู่กับความยาวของคลิบหนีบกระดาษ ลูกตุ้มยาวขึ้นอีกต่อไปและลูกตุ้มที่สั้นกว่าจะสั้นลง ยิ่งช่วงเวลาของลูกตุ้มมีสัดส่วนกับรากที่สองของความยาว 

        การแกว่งแบบเพนดูลัมจะหยุดลงเมื่อแรงเสียดทานมีค่ามากกว่าแรงดึงกลับของลูกตุ้มหรือคลิปหนีบกระดาษ การแกว่งของคลิปหนีบกระดาษจึงเสมือนว่าเป็นการแกว่งของลูกตุ้มนาฬิกา ซึ่งเป็นการจำลองการศึกษาของกาลิเลโอนั่นเอง

 

 

 

 


Return to contents
Previous Page 1 / 2 Next Page
หัวเรื่อง และคำสำคัญ
แรงและการเคลื่อนที่
ประเภท
Text
รูปแบบการนำเสนอ แบ่งตามผลผลิต สสวท.
สื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิทัล
ลิขสิทธิ์
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
วันที่เสร็จ
วันอังคาร, 20 มีนาคม 2561
ผู้แต่ง หรือ เจ้าของงาน
ณัฐวิญญ์ สิรเดชธราทิพย์
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
ฟิสิกส์
ระดับชั้น
ม.4
ม.5
ม.6
ช่วงชั้น
มัธยมศึกษาตอนปลาย
  • เพิ่มในรายการโปรด
    คลิ๊กเพื่อติดตาม
    เพิ่มในรายการโปรด
  • ให้คะแนน
    คะแนนเฉลี่ย
    • 1
    • 2
    • 3
    • 4
    • 5
คุณอาจจะสนใจ
Recently added
  • กลุ่มของสารเคมีกำจัดแมลง...
  • เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลูกอม...
  • เรียนรู้จาก Chat Bot...
  • พืชก็เครียดเป็น...
  • ฟิสิกส์กับกล้องถ่ายรูป...
อ่านต่อ..
คุณอาจจะสนใจ
Nanotechnology (นาโนเทคโนโลยี)
Nanotechnology (นาโนเทคโนโลยี)
Hits ฮิต (6535)
ให้คะแนน
นาโนเทคโนโลยี คืออะไร นาโนเทคโนโลยี เป็นเทคโนโลยีของวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ที่เอาไปใช้ประโยชน์ในการออก...
Photosynthesis
Photosynthesis
Hits ฮิต (3781)
ให้คะแนน
โครงสร้างของคลอโรพลาสต์ กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง พืชสีเขียว สาหร่ายและแบคทีเรีย ที่สังเคราะห์ด้วย...
กล้องจุลทรรศน์
กล้องจุลทรรศน์
Hits ฮิต (7726)
ให้คะแนน
กล้อง อุปกรณ์สำคัญในการศึกษาสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็ก คือ กล้องจุลทรรศน์ (Microscope) การจำแนกประเภท...

ค้นหาบทเรียน

กลุ่มเป้าหมาย
ระดับชั้น
สาขาวิชา/กลุ่มสาระวิชา
การกรองเปลี่ยนแปลง โปรดคลิกที่ส่งเมื่อดำเนินการเสร็จ
  • บทเรียนทั้งหมด
  • ฟิสิกส์
  • เคมี
  • ชีววิทยา
  • คณิตศาสตร์
  • เทคโนโลยี
  • โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
  • วิทยาศาสตร์ทั่วไป
  • สะเต็มศึกษา
  • อื่น ๆ
  • เกี่ยวกับ SciMath
  • ติดต่อเรา
  • สรุปข้อมูล
  • แผนผังเว็บไซต์
Scimath คลังความรู้
Scimath คลังความรู้
เว็บไซต์คลังความรู้สู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทำโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไร จัดตั้งขึ้น เพื่อส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ คลังความรู้สู่ความเป็นเลิศฯ โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด Copyright © 2017 SCIMATH :: คลังความรู้สู่ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี. All Rights Reserved.