แสงแดด VS ผิวหนัง VS สารกันแดด (Part I)
อย่างที่รู้กันว่าประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในประเทศเขตร้อน ที่ชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวตามชายหาด หรือชายทะเล และค่านิยมของคนไทยที่อยากจะมีผิวขาวทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดนานาชนิด ออกมาวางขายมากมายในตลาด แต่เคยสงสัยไหมว่า แท้จริงแล้วแสงแดดมีผลอย่างไรต่อร่างกายมนุษย์ได้บ้าง และร่างกายมนุษย์ ก็ไม่สามารถขาดแสงแดดได้เช่นกัน
มาดูกันว่า แสง UV หรือ Ultraviolet light ที่เรากลัวกันนักหนานั้น มีผลเสียต่อผิวหนังอย่างไรได้บ้าง
แสง UV นี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ประกอบด้วย UVC ( ช่วงคลื่นความยาวระหว่าง 200-290 nm) , UVB ( ช่วงคลื่นความยาวระหว่าง 290-320 nm) และ UVA ( ช่วงคลื่นความยาวระหว่าง 320-400 nm) แต่เนื่องจากคลื่นความยาวของแสงที่มาถึงพื้นโลกได้จะมีค่าคลื่นความยาวมากกว่า 290 nm ดังนั้น สิ่งที่พวกเรามักจะเจอกันบ่อย หรือได้ยินในโฆษณา หรือเห็นในป้ายผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดจะเป็นในส่วนของ UVB และ UVA เสียส่วนใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วในบริเวณยอดเขาสูง ก็อาจพบ UVC ได้เช่นกัน เนื่องจากปรกติ UVC จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซนในบรรยากาศ แต่ในปัจจุบัน มีการใช้สาร chlorofluorocarbons , halons , nitric oxide , carbon tetrachloride , และ methyl chloroform ในอุตสาหรรมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ อุตสาหกรรมเครื่องทำความเย็น โฟมที่ใช้เป็นฉนวน และตัวทำลาย รวมถึงยาฆ่าแมลงที่มีสาร methyl bromide ได้ทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศ จึงทำให้ความสามารถในการดูดซับแสง UV ในบรรยากาศลดลง ทำให้เราได้รับปริมาณแสง UV มากขึ้น
แล้วผลกระทบของแสง UV จะมีผลมากน้อยเพียงใดต่อผิวหนังมีปัจจัยอะไรบ้าง ?
เนื้อหาจาก
http://www.webmd.com/beauty/sun/sun-exposure-skin-cancer
http://www.brecosmeticlab.com/newslet/51/04_apr/007_uv_effect.html
https://www.doctor.or.th/article/detail/1632
http://www.inderm.go.th/Health/health_21.htm
http://www.skincancer.org/prevention/sun-protection/sunscreen
ภาพจาก
http://www.gettyimages.com
https://sundicators.com/2016/05/important-protect-your-skin-from-sun/
https://en.wikipedia.org/wiki/Ozone_layer